ธุรกิจ ชาน ม ไข่มุก
ชาไข่มุก ญี่ปุ่น

หัวข้อ

ชาไข่มุก ญี่ปุ่น

ชาไข่มุก ญี่ปุ่น เมื่อวัฒนธรรม ชานมไข่มุก (Milk Tea) ได้ส่งไม้ต่อมาที่ประเทศญี่ปุ่น ร้านชานมไข่มุกหลายแบรนด์จากแหล่งต่างๆ ก็ได้หลั่งไหลเข้ามาปักหมุดเปิดให้บริการในย่านฮิตของ โตเกียว (บางร้านกระจายตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่นกว่า 32 แห่ง) ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจสาวกชานมไข่มุกชาวญี่ปุ่นเขาล่ะ ดูได้จากคิวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าร้านที่ไม่มีทีท่าว่าจะลด ร้านชา ไข่มุก เก๋ๆ ให้สมกับเป็นยุคของชานมไข่มุกซะจริงๆอย่างครั้งนี้คิจิได้เลือกร้านชานมไข่มุกมาแนะนำกว่าคัดแล้วคัดอีกกกก เอาแต่ที่ชาวญี่ปุ่นกาดอกจันรัวๆ เลยว่าต้องกิน ที่สำคัญไม่ซ้ำกับที่บ้านเรามี ไปจนถึงชานมไข่มุกที่เสิร์ฟในคาเฟ่ออร์แกนิ๊กกกออร์แกนิก ว่าแต่ แห่งที่ว่าจะมีร้านอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่ะ

 

Chun Shui Tang ชาไข่มุก ญี่ปุ่น   

 

ชาไข่มุก ญี่ปุ่น ร้านชานมไข่มุกตำนานกว่า 36 ปี ผู้ให้กำเนิดเมนู ชานมไข่มุก แห่งไต้หวัน Chun Shui Tang ก็ขยายสาขามาปักหมุดที่ โตเกียว กับเขาด้วยเหมือนกัน โดยสาขาแรกนั้นตั้งอยู่ในย่านไดคังยะมะ ก่อนจะเปิดเพิ่มเป็นจำนวน 4-5-6 แห่งในโตเกียว (และอีก 6 สาขาตามเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น) ความดีงามของ Chun Shui Tang ชาไข่มุกยี่ห้อไหนอร่อย ที่สาขาไดคังยะมะก็คือนอกจากที่นี่จะเสิร์ฟชาชนิดต่างๆ ทั้งแบบร้อนและเย็นใส่ไข่มุก (ราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 500 เยน)ทางร้านยังมีจานหวานสไตล์ไต้หวันให้ได้สั่งมากินเพลินๆ ด้วย แต่ถ้าใครอยากกินจริงจังมากกว่านี้ คิจิขอเชิญไปที่สาขาโอโมเตะซันโดเลยค่ะ เพราะที่นั่นมีรายการอาหารประเภทเส้นต่างๆ ให้เลือกสรร ส่วนจะรสชาติถูกปากหรือไม่นั้น คิจิอยากให้เพื่อนๆ ไปลองพิสูจน์กันดูค่ะ

 

Gong Cha

 

เป็นอีกร้านที่คิจิคิดว่าทำไมไม่มีคนใจดีเอาเข้ามาเปิดที่ไทยสักทีนะ เพราะเท่าที่สอบถามเพื่อนๆ สาย ชานมไข่มุก ด้วยกันต่างก็แนะนำว่าถ้าเดินไปเจอร้าน Gong Cha ที่ไหนขอให้พุ่งตัวไปลองชานมไข่มุก (ฺBlack Milk Tea + Pearl ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 490 เยน) ของเขาให้ได้ ซึ่งที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะใน โตเกียว เอง Gong Cha ก็มีสาขามากมายให้เลือกเข้าค่ะ (สาขาแรกที่โอโมเตะซันโดเปิดเมื่อปี 2015) เมนูก็มีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ชานม, ชาใส ไปจนถึงสมูทตี้, น้ำผลไม้ และเมนูเครื่องดื่มตามฤดูกาลอีกอย่างคือที่ Gong Cha สามารถเลือกระดับความหวานและน้ำแข็งได้ (ในกรณีไม่เอาน้ำแข็งต้องจ่ายเพิ่มอีก 70 เยน) พร้อมกับให้บริการเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น อ้อ! บางสาขามีขนมอบหน้าตาน่ารับประทานชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำหน่ายด้วยนะ อย่าง Pineapple Cake, Mango Cake, Lemon Cake, Egg Tart, Alisan Tea Tart และ Pudding เป็นต้น

 

Chatime 

 

แบรนด์นี้ก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศไต้หวันเช่นกันค่ะ ตัวร้านหาง่ายสะดุดตาด้วยหน้าร้านเป็นสีม่วงเข้ม ที่ Chatime นอกจากจะเสิร์ฟชาหอมๆ ตั้งแต่รสชาติออริจินอลอย่าง Black Milk Tea ร้านนี้ยังมีท็อปปิ้งให้เลือกจิ้มสั่งนอกจากไข่มุกอยู่เพียบ ราคาเริ่มต้นต่อแก้วก็อยู่ที่ 360 เยนค่ะ ลดความหวานทั้งปริมาณน้ำแข็งได้ และเกือบทุกเมนูลูกค้าสามารถรีเควสได้เลยว่าจะดื่มแบบร้อนหรือเย็น จำนวนสาขาที่โตเกียวมีไม่มากไม่น้อยราวๆ 7 แห่งในย่านดัง เอาเป็นว่า Chatime คือชานมไข่มุกอีกร้านที่ควรลอง (ก็ไปทั้งทีอ่ะเนอะ)

 

Yi Fang

 

ร้านชาผลไม้เฉพาะทางชื่อดัง (และแน่นอนว่าที่นี่เขาจำหน่ายชานมไข่มุกด้วย) เพิ่งได้ฤกษ์เปิดสาขาแรกที่อาซากุสะเมื่อปี 2018 ที่นี่มีรายการเครื่องดื่มให้เลือกกว่า 20 เมนูค่ะ ชาผลไม้รสชาติดีไม่หวานจนต้องตัดขา ด้าน Pearl Black Tea Latte ก็นัวอร่อยถูกใจคอชานมแน่นอน ทั้งไข่มุกสูตรของ Yi Fang ก็เคี้ยวสนุกสัมผัสไม่นิ่มไม่แข็งไป ด้านราคาต่อแก้วก็อยู่ในเรจน์กลางๆ จ่ายได้ไม่กวนกระเป๋าสตางค์ ปัญหาคือคิวยาวหน่อยนะ แต่อร่อยคุ้มค่าชัวร์!

 

Saisabo

 

ชื่อร้านไม่น่าจะคุ้นหูสาวกชานมไข่มุกคนไทยเท่าไหร่ แต่ Salted Cheese Tea ของ Saisabo นี่แหละที่อร่อยฟินจนเป็นประเด็นให้พูดถึงในรายการโทรทัศน์ Arashi ni Shiyagare ของทางช่อง Nippon TV มาแล้วและด้วยความที่เป็นแบรนด์จากไต้หวัน คุณภาพของใบชาที่ทางร้านได้นำมาใช้ก็ล้วนผ่านการเลือกมาอย่างพิถีพิถันจากแหล่งที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้ทั้งนั้นความครีเอท Saisabo ก็ไม่ทิ้งนะ ดูได้จากที่เขาออกเมนูในคอนเซ็ปต์พาร์เฟ่ต์ดื่มได้ที่บรรจุมาในขวดมายองเนสอย่าง Mayo Parfait ซึ่งก็น่าลองอยู่นะ ว่าไม่ได้

 

TEA18 

 

ความหมายของ TEA18 นั้นมีที่มาจากชื่อของพันธุ์ชา TaiCha 18 ในไต้หวัน ด้วยเป็นชาที่ผลผลิตน้อย มีความหอมเฉพาะตัว แน่นอนว่าความต้องการในการดื่มมีสูง สิ่งที่ตามมาก็คือราคาแพงกว่าชาชนิดอื่นราวๆ 2 เท่า ซึ่งถ้าใครอยากลองดื่มชาเข้มๆ พลางเคี้ยวไข่มุกเด้งๆ ขอให้มุ่งหน้าไปที่ TEA18 สาขาห้างสรรพสินค้า Shibuya Marui เลยค่ะ (นอกจากสาขาที่ญี่ปุ่น TEA18 ยังมีหน้าร้านที่จีน, อเมริกา และประเทศแม่อย่างไต้หวันอีกด้วย) ที่สำคัญทางร้านใช้วิธีการเบลนด์ชาที่ค่อนข้างยูนีคบวกกับความหอมในแบบ TaiCha 18 เอาเป็นว่าอร่อยไม่อร่อย บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่นก็ให้ดาว 5 เต็ม 5 คะแนนอ่ะ

 

Alfred Tea Room

 

บินตรงจากลอสแอนเจลิสมาเปิด 2 สาขาใหญ่ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2017 สำหรับ Alfred Tea Room ห้องชาสีชมพูโทน Millennial Pink ที่เน้นเสิร์ฟชาพรีเมียมเพื่อผู้หญิง ภายในแต่งด้วยไฟนีออนดัด Quote คำพูดติดปากของ Alfred Tea Room รสชาติของชาที่นี่จะออกละมุนๆ ซึ่งเป็นเทสต์ทางตะวันตกเขา แต่เอาที่นิยมเลยก็คือเมนู Iced Boba Milk Tea และ Strawberry Milk Tea ค่ะ ส่วนจานเบเกอรี่ที่นี่ก็มีเสิร์ฟนะ และจริงจังถึงขั้นให้ปาตีซีเยชื่อดังของร้าน halcafe 229 มาครีเอทเมนูขนมหวานปลอดกลูเตน (Gluten-Free) ให้เลยทีเดียว

 

บทความที่แนะนำ